แบบฝึกหัดทบทวนบทที่ 2
เมื่อนักศึกษาได้ศึกษาบทเรียนนี้แล้ว จงตอบคำถามต่อไปนี้ให้ถูกต้อง
1.
ใครเป็นผู้ขอพระราชทานรัฐธรรมนูญฉบับแรก และมีเหตุผลอย่างไร และประเด็นที่
เกี่ยวข้องกับการจัดการศึกษา เป็นอย่างไร อธิบาย
ตอบ นายปรีดี
พนมยงค์ เป็นผู้ดำรงตำแหน่งผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ในขณะนั้น ได้ปรารภกับนายควง อภัยวงศ์ นายกรัฐมนตรีว่า
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยนี้
พระมหากษัตริย์ได้พระราชทานแก่ชนชาวไทยมาแล้วเป็นปีที่ 14 ทั้งประชาชนได้ซาบซึ้งถึงคุณประโยชน์ของการปกครองระบอบนี้
เป็นอย่างดีแล้ว แต่เหตุการณ์บ้านเมืองก็ได้เปลี่ยนแปลงไปเป็นอันมาก ถึงเวลาแล้วควรจะเลิก
บทเฉพาะกาลและปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยขึ้น” และสภาผู้แทนราษฎร์ได้แต่งตั้งตั้งคณะกรรมการวิสามัญขึ้นคณะหนึ่งเพื่อพิจารณาค้นคว้าตรวจสอบรัฐธรรมนูญตามคำเสนอข้างต้นขึ้น
2.
แนวนโยบายแห่งรัฐในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา ของรัฐธรรมนูญฯ
พุทธศักราช 2492 ได้กำหนดอย่างไร อธิบาย
ตอบ รัฐธรรมนูญฯ 2492
กำหนดไว้ว่า
1) เป็นรัฐธรรมนูญที่เปลี่ยนชื่อมาใช้ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
พุทธศักราช 2492
2) ในรัชสมัย รัชกาลที่ 9 โดยมีคณะอภิรัฐมนตรี ในหน้าที่ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์
คือ รังสิตกรม กรมขุนชัยนาทนเรนทร อลงกฏ ธานีนิวัต
พระยามานวราชเสวี อดุลเดชจรัส ตราไว้ ณ วันที่ 23 มีนาคม พุทธศักราช 2492
3)
เหตุผล ด้วยเหตุการณ์บ้านเมืองได้วิวัฒนาการมาโดยลำดับ จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงแก้ไขรัฐธรรมนูญ ให้อนุโลมตามกาลนิยม
ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ตรารัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
(ฉบับชั่วคราววุฒิสภา
3.
เปรียบเทียบแนวนโยบายแห่งรัฐประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาของรัฐธรรมนูญฯ
พุทธศักราช 2511 พุทธศักราช
2517 และ พุทธศักราช 2521
เหมือนหรือต่างกันอย่างไร อธิบาย
ตอบ เหมือนกัน
เพราะ เป็นรัฐธรรมนูญที่เปลี่ยนชื่อมาใช้ “รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
4. ประเด็นที่ 1 รัฐธรรมนูญฯ
พุทธศักราช 2475-2490
ประเด็นที่ 2
รัฐธรรมนูญฯพุทธศักราช 25492-2517
ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาเหมือนหรือต่างกันอย่างไร อธิบาย
ตอบ
เหมือนกัน คือ รัฐธรรมนูญฉบับแรกที่มีชื่อว่า รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรสยาม พุทธศักราช
2475 ต่อมาได้เปลี่ยนคำว่าราชอาณาจักรสยามเป็นราชอาณาจักรไทย
จนถึงปัจจุบัน และกล่าวถึงประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาไม่มากหนัก ได้กำหนดสิทธิและเสรีภาพ การพูด
การเขียน การศึกษาอบรม การประชุมโดยเปิดเผย การตั้งสมาคม
การอาชีพ
5. ประเด็นที่
3 รัฐธรรมนูญฯ พุทธศักราช 2521-2534 ประเด็นที่ 4 รัฐธรรมนูญฯพุทธศักราช 2540-2550
ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาเหมือนหรือต่างกันอย่างไร อธิบาย
ตอบ ต่างกันประเด็นที่ 3
สรุปได้ดังนี้
1.
บุคคลย่อมมีเสรีภาพและมีสิทธิเสมอกันในการศึกษาภาคบังคับและการศึกษาอบรม
ไม่เป็นปรปักษ์และไม่ขัดต่อกฎหมายการศึกษา
2.
เสรีภาพในวิชาการย่อมได้รับการคุ้มครองที่ไม่ขัดต่อหน้าที่พลเมือง
3.
รัฐพึงส่งเสริมและบำรุงการศึกษาอบรม ระบบการศึกษาอบรมเป็นหน้าที่ของรัฐและสถานศึกษาทั้งปวงอยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐ
4. การศึกษาอบรมชั้นอุดมศึกษา รัฐกำหนดให้สถานศึกษาดำเนินการตามกิจการของตนเองได้ภายในขอบเขตที่กฎหมายกำหนด
5.
การศึกษาภาคบังคับในสถานศึกษาของรัฐและท้องถิ่น จัดให้โดยไม่เก็บค่าเล่าเรียน
6.
รัฐพึงช่วยเหลือผู้ยากไร้ให้ได้รับทุนและปัจจัยต่าง ๆ
ในการศึกษาอบรมและการฝึกอาชีพ
7.
รัฐสนับสนุนการวิจัยในศิลปะและวิทยาการต่าง ๆ และส่งเสริมการใช้วิทยาศาสตร์
และเทคโนโลยีในการพัฒนาประเทศ
8.
รัฐพึงสนับสนุนและส่งเสริมเยาวชนของชาติ
ให้เป็นผู้ที่มีความสมบูรณ์
ทั้งทางร่างกาย จิตใจ และสติปัญญา
คุณธรรม และจริยธรรม เพื่อประโยชน์ในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม
และเพื่อความมั่นคงของรัฐ
ประเด็นที่ 4 สรุปได้ดังนี้
1.สิทธิและเสรีภาพในเชิงวิชาการ
การเรียนการสอนการวิจัยได้รับการคุ้มครอง
2.รัฐจัดการศึกษาให้กับบุคคลมีสิทธิเสมอกันในการศึกษาขั้นพื้นฐานไม่น้อยกว่า 12
ปี และจะต้องจัดอย่างทั่วถึงอย่างมีคุณภาพ ไม่เก็บค่าใช้จ่าย
และการศึกษาอบรมขององค์กรวิชาชีพและเอกชนจะต้องได้รับการคุ้มครอง
3 รัฐต้องคุ้มครองและพัฒนาเด็กและเยาวชน ส่งเสริมความเสมอภาคทั้งหญิงและชาย
พัฒนาความเป็นปึกแผ่นของครอบครัว และความเข็มแข็งของชุมชน สังเคราะห์ผู้ยากไร้ ผู้พิการหรือทุพพลภาพและผู้ด้อยโอกาส
4.รัฐจะต้องจัดการศึกษาอบรมและสนับสนุนให้เอกชน
จัดการศึกษาอบรมให้เกิดความรู้คู่คุณธรรมและจัดให้มีกฎหมายการศึกษาแห่งชาติ
5. รัฐส่งเสริมสนับสนุนการกระจายอำนาจ
เพื่อให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นชุมชนองค์กรต่าง ๆ
มีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาเพื่อพัฒนามาตรฐานคุณภาพการศึกษาให้เท่าเทียมกัน
6.ส่งเสริมและสนับสนุนความรู้รักสามัคคีและการเรียนรู้
ปลูกจิตสำนึก และเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณีของชาติ ตลอดจนค่านิยมอันดีงามและภูมิปัญญาท้องถิ่น
6.
เหตุใดรัฐธรรมนูญแต่ละฉบับจะต้องระบุในประเด็นที่รัฐจะต้องจัดการศึกษาอย่างเป็นธรรมและทั่วถึง อธิบาย
ตอบ
เพราะรัฐธรรมนูญแต่ละฉบับต้องระบุให้ชัดเจน
เพื่อจัดการศึกษาอย่างเป็นธรรมและทั่วถึงแก่เด็ก
เป็นแนวทางในการศึกษาตามลำดับขั้นตอน
7.
เหตุใดรัฐจึงต้องกำหนด “บุคคลมีหน้าที่รับการศึกษาอบรมตามเงื่อนไขและวิธีการที่กฎหมายบัญญัติ”
จงอธิบาย หากไม่ปฏิบัติจะเกิดอะไรขึ้น
ตอบ บุคคลที่มีหน้าที่รับการศึกษาอบรมตามเงื่อนไขและวิธีการที่กฎหมายบัญญัติไว้
เนื่องจากต้องการจัดระบบการศึกษาที่ถูกต้อง ครบถ้วน สมบูรณ์ ตามกฎบัญญัติ
ถ้าหากไม่ปฏิบัติตามก็จะเกิดปัญหาทางการศึกษาและการศึกษาจะไม่เป็นระบบ
8. การจัดการศึกษาที่เปิดให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาหากเราพิจารณารัฐธรรมนูญมีฉบับใดบ้างที่ให้องค์กรส่วนท้องถิ่นมีส่วนร่วม
และถ้าเปิดโอกาสให้ท้องถิ่นมีส่วนร่วมมากขึ้นท่านคิดว่าเป็นอย่างไร จงอธิบาย
ตอบ เป็นสิ่งที่ดีที่จะเปิดโอกาสให้ท้องถิ่นมีส่วนร่วมมากเพราะ
องค์การท้องถิ่นเป็นองค์กรที่ใกล้เคียงกับบทบาทของการใช้ชีวิตตามความจริง
ใกล้ชิดชุมชนและได้เสนอแนะแนวทางร่วมกัน
9. เหตุใดการจัดการศึกษา รัฐต้องคุ้มครองและพัฒนาเด็กและเยาวชน
ส่งเสริมความเสมอภาคทั้งหญิงและชาย
พัฒนาความเป็นปึกแผ่นของครอบครัว
และความเข็มแข็งของชุมชน
สังเคราะห์ผู้ยากไร้
ผู้พิการหรือทุพพลภาพและผู้ด้อยโอกาส
จงอธิบาย
ตอบ การจัดการศึกษาที่รัฐต้องคุ้มครอง
การพัฒนาเด็กและเยาวชนให้มีสิทธิเสรีภาพที่เสมอเท่าเทียมกัน
ถึงจะอยู่ร่วมกันได้อย่างสบสุ๘ สร้างความเป็นปึกแผ่นของสังคมที่ควรปฏิบัติ
10.
ผลการจัดการศึกษาที่ผ่านมาของรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน มีผลต่อการพัฒนาประเทศอย่างไรบ้าง จงอธิบาย
ตอบ นับตั้งแต่ได้มีรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยขึ้นและมีการปรับปรุงแก้ไขในประเด็นที่เกี่ยวข้อง
กับการศึกษา
ได้มีวิวัฒนาการเกี่ยวกับสิทธิและหน้าที่เสรีภาพ การศึกษาอบรม
ให้กับเด็กและเยาวชนให้เป็นผู้มีความสมบรูณ์ทั้งทางร่างกาย จิตใจ สติปัญญา
คุณธรรมจริยธรรม โดยมีแนวทางในการจัดการศึกษา
รัฐจะต้องจัดการศึกษาและสนับสนุนให้เอกชนจัดการศึกษาอบรมให้เกิดความรู้คู่คุณธรรมเช่นกัน
และจัดการศึกษาภาคบังคับให้เข้ารับการศึกษาอบรมโดยไม่เก็บค่าใช้จ่าย สำหรับการศึกษาภาคบังคับ ต่อมาได้เพิ่มเติมจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ไม่น้อยกว่า 12 ปี รัฐจะต้องจัดอย่างทั่วถึงและมีคุณภาพ
พร้อมทั้งจัดให้มีกฎหมายการศึกษาแห่งชาติ
หรือเรียกชื่อว่า “พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติขึ้น”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น